
การนับไพ่แบล็คแจ็ค เกมไพ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งนักพนันหลาย ๆ ท่านเรียกเกมไพ่นี้ว่า เกมไพ่ยี่สิบเอ็ด เพราะรูปแบบการเล่นของเกมนี้คือ การมีแต้มไพ่ในมือเท่ากับ 21 หรือใกล้เคียงนั้นเอง
โดยทุก ๆ ท่านนั้นสามารถที่จะเล่นเกมไพ่ชนิดนี้ได้อย่างง่ายดาย ในรูปแบบของเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ สามารถที่จะเล่นได้ง่าย ๆ ผ่านมือถือ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเดินทางไปเล่นตามบ่อนให้เสียเวลาอีกต่อไป
เกมไพ่แบล็คแจ็คเรียกได้ว่า มีนักพนันให้ความสนใจอย่างล้นหลาม เพราะนอกจากจะมีรุปแบบกาารเล่นที่ง่ายแล้วยังมีอัตราการจ่ายที่ค่อนข้างจะสูงอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นักพนันหลาย ๆ ท่านนิยมที่จะเล่นกัน และสร้างกำไรจากการเล่นได้แบบมหาศาลอีกด้วย
กติกาการเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค เล่นยังไง การนับไพ่แบล็คแจ็ค เข้าใจง่าย ๆ แบบพื้นฐาน
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็ค คือ การที่ทุก ๆ ม่านนั้นจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเล่นให้เป็นอย่างดีก่อน อย่างที่บอกว่า เกมไพ่แบล็คแจ็ค มีรูปแบบการเล่น คือ จะต้องทำแต้มไพ่ในมือให้ได้เท่ากับ 21 แต้ม หรือใกล้เคียง 21 แต้มมากที่สุด โดยจะต้องไม่เกิน 21 แต้มเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นจะถือว่าแพ้ไปโดยทั้นทีนั่นเอง
และสำหรับวันนี้เราจะมาแนะนำรูปแบบการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็ค ที่มือใหม่จำเป้นที่จะต้องรู้ว่า แบล็คแจ็ค เล่นยังไง รวไปถึงกติกาการเล่น และวิธีเล่น ซึ่งรูปแบบการเล่นของเกมไพ่แบล็คแจ็คจะมีรูปแบบการเล่นดังนี้
- เริ่มต้นการวางเดิมพัน ฝั่งเจ้ามือจะแจกไพ่ให้กับฝั่งผู้เล่น คนละ 2 ใบ ซึ่งจะแจกตามลำดับที่นั่ง
- เมื่อได้ไพ่ในมือครบ 2 ใบแล้ว ให้ดูว่าไพ่ที่ได้มีแต้มเท่ากับเท่าไหร่ ได้ใกล้เคียงกับ 21 แต้มหรือไม่ ถ้าหากว่าได้แต้มน้อยกว่า 16 แต้ม สามารถที่จะขอไพ่เพิ่มได้
- ถ้าหากว่าใครที่ได้แต้มเท่ากับ 21 แต้ม หรือได้ใกล้เคียง 21 แต้มมากกว่ากัน ก็ชนะได้เลยทันที แต่ถ้าหากว่าใครที่ได้แต้มมากกว่า 21 แต้ม ก็จะแพ้ได้ เช่นเดียวกัน
- โดยผู้เล่นนั้นจะสามารถที่จะขอไพ่เท่าไหร่ก็ได้ เพื่อให้ได้แต้มในมือได้เท่ากับ 21 แต้ม หรือใกล้เคียง และสำหรับการตัดสินจะขึ้นอยู่กับเจ้ามือ โดยจะไม่วัดผลกับผู้เล่นคนอื่น ๆ
การนับแต้มไพ่แบล็คแจ็ค
- A : เท่ากับ 1 หรือ 11 ( ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละเว็บที่ให้บริการ )
- 2 – 10 : นับตามแต้มหน้าไพ่
- J : 10 แต้ม
- Q : 10 แต้ม
- K : 10 แต้ม
คำศัพท์ในการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค
- BlackJack : จะเป็นการเรียกตอนที่ ได้ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 21 แต้ม พอดี
- Hit : การขอไพ่เพิ่ม
- Stand : ไม่ขอไพ่เพิ่ม เป็นการอยู่
- Double Down : วางเดิมพันเพิ่มของผู้เล่น เพื่อทำการขอไพ่ใบที่ 3
- Split : จะเป็นการได้ไพ่คู่ หรือ ไพ่ที่มีเลขเหมือนกัน โดยผุ้เล่นนั้นจะแยกการเล่นออกเป็น 2 ชุดด้วยกัน
- Insurance : เป็นรูปแบบของการวางประกันเงินไพ่ คือ ถ้าหากว่าไพ่ของเจ้ามือออกมาเป็นรูปแบบ A จะมีโอกาสชนะสูง โดยที่ผุ้เล่นนั้นสามารถที่จะวางเดิมพันเพิ่มได้อีก 50% ของจำนวนเงินที่ผุ้เล่นนั้นได้ทำการวางเดิมพันไปแล้ว และถ้าหากว่าแต้มของเจ้ามือได้เท่ากับ 21 แต้ม ผุ้เล่นก็จะได้เงินวางประกันเงินไพ่ ได้เลทันที แต่ถ้าหากไม่ได้ 21 แต้มก็จะไม่ได้เงินวางประกันเงินไพ่นั้นเอง
นอกจากนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวเทคนิคการเล่นไพ่แบล็คแจ็ค เพื่อที่ทุก ๆ ท่านจะได้ทำเงินจากการเล่นเกมไพ่นี้ได้มากยิ่งขึ้นนั้นเอง ซึ่งเทคนิคเกมไพ่แบล็คแจ็ค มีดังนี้
- ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 17 , 18 , 19 , 20 ไม่ต้องขอไพ่เพิ่ม ให้อยู่ได้เลยทันที
- ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 16 แต้ม : เจ้ามือจะมี 2 , 3 , 4 , 5 , 6 ไม่ต้องขอไพ่เพิ่ม ให้อยู่ได้เลย / เจ้ามือมี 7 , 8 ผู้เล่นจะต้องขอไพ่เพิ่ม 1 ใบ / เจ้ามือมี 9 , 10 , A ให้ผู้เล่นยอม และเสียเงินที่แทงไปครึ่งหนึ่ง
- ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 15 แต้ม : เจ้ามือจะมี 2 , 3 , 4 , 5 , 6 ไม่ต้องขอไพ่เพิ่ม ให้อยู่ได้เลย / เจ้ามือมี 7 , 8 , 9 , A ผู้เล่นจะต้องขอไพ่เพิ่ม 1 ใบ / เจ้ามือมี 10 ให้ผู้เล่นยอม และเสียเงินที่แทงไปครึ่งหนึ่ง
- ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 13 , 14 แต้ม : เจ้ามือมี 2 , 3 , 4 , 5 , 6 ไม่ต้องขอไพ่เพิ่ม ให้อยู่ได้เลย / เจ้ามือมี 7 , 8 , 9 , 10 , A ผู้เล่นจะต้องขอไพ่เพิ่ม 1 ใบ
- ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 12 แต้ม : เจ้ามือมี 4 , 5 , 6 ม่ต้องขอไพ่เพิ่ม ให้อยู่ได้เลย / เจ้ามือมี 2 , 3 , 7 , 8 , 9 , 10 , A ผู้เล่นจะต้องขอไพ่เพิ่ม 1 ใบ
- ถ้าหากว่าผู้เล่นได้ไพ่ 2 ใบแรก เท่ากับ 11 แต้ม : หรือถ้าหากว่าผู้เล่นได้แต้มที่น้อยกว่านี้ ให้ขอไพ่เพิ่มได้เลยทันที
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ >> casinoeinggor.com